วันที่เราบ่นว่าเหนื่อຍ ทำงานเหนื่อຍจัง โดนเจ้านายบ่น รถติดจัง แต่เรา
ก็ยังมีงานทำใช่ไหมล่ะ เรายังมีเงินเดือนทุกเดือน
เรายังมีข้าวกินทุกวัน บางคน ไม่เคยรู้เลยว่า
รสชาติการนอนหลับบนเตียงนุ่ม ๆ ในห้องแอร์มันเป็นยังไง
บางคน ลูกร้องอยากกินไก่ K เอ ฟ ซี
ยังติดลูกมาเป็นปี ๆ เลื่อนไปเรื่อย ๆ
บอกลูกว่าเดี๋ยวค่อยกินนะลูก อาทิตย์หน้าค่อยกินได้ไหม
ทำแบบนี้มาเป็นปี ๆ ส่วนบางคน ไม่ต้องทำอะไร
มีหน้าทีเรียนอย่างเดียว พ่อแม่ส่งเงินให้ใช้
กลับโพสต์ลงเฟสบุ๊คว่า เรียนเหนื่อຍจัง
ท้อจัง การบ้านยากจัง พ่อแม่บ่นจัง
บางคน พ่อแม่ปูทางประเคนให้ทุกอย่าง
กลับบ่นว่าชีวิตทำไมมัน ยากเย็นขนาดนี้
มันไม่มีอะไร ยากเลย เราแค่ทำตามหน้าที่ของเรา
ให้ดีที่สุดเท่านั้uเองค่ะ คนบางคน
นั่งทำงานในห้องแอร์แท้ ๆ แต่บ่นทุกครั้งที่เจอว่า
งานหนักชิบหๅย เด็กบางคนสมัยนี้
แค่แบตโทรศัพท์จะหมด
ก็เหมือนจะขาดใจจากไปตอนนั้นซะเลย
เราลองถามตัวเองดูนะ ว่าตอนนี้
เราอยู่ได้ไหมถ้าไม่มี wifi ทุกคนคงตอบว่า
ไม่ได้หรอกชีวิตเหมือนจากไปไปแล้วครึ่งตัว
ลองหันไปรอบ ๆ ตัวเราดูไหมคะ มีคนที่เขา
ลำ บ า ก กว่าเราเยอะ มีคนที่เขาทุกข์
กว่าเราเยอะ มีคนที่เขาต้นทุนต่ำจนติดลบ
กว่าเราอีกมากมาย แม้แต่มือถือธรรมดา
เครื่องเดียวเค้าก็ไม่มีเงินซื้อ
นักศึกษาบางคนที่ขับรถเก๋งไปมหาลัย
หรือแม้แต่ขับมอเตอร์ไซต์ไปก็ตาม
ถ้าน้องยัง นอนห้องแอร์เรียนห้องแอร์
แล้วโพสต์ลงเฟสบุ๊คว่าเรียนเหนื่อຍ
มันฟ้องว่าน้อง กระจอกมาก
ทำงานในห้องแอร์แล้วบ่นว่าชีวิตแสแย่
มันคือการดูถูกตัวเองอย่างรุน แรง
เราบ่นว่าชีวิตเราไม่ดี แล้วคนเหล่ านั้นล่ะ
ที่เค้าไม่เคยอยู่ในห้องแอร์เลยจะมีอะไรให้บ่น
จำไว้ว่านะคะว่าในขณะที่คุณไม่พอใจชีวิตตัวเอง
มีคนอีกไม่น้อย อยากมีชีวิตแบบคุณ
สุขได้ ถ้ารู้ว่า อันไหนควรถืออันไหนควรวาง
อันไหนควรคิด อันไหนไม่ควรคิด
แนวคิดนี้เป็นเพียงสิ่งที่ปริญญาชีวิตหยิบยกมา
เผื่อใครที่ได้อ่านจะมีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตบ้างค่ะ
หากเราคิดว่าเราเนี่ยกำลัง ลำบาก
อยากให้รู้นะคะว่ามีคนที่ ลำบากกว่าเราอีก
คิดแค่นี้เราก็จะไม่ท้อแล้ว อย่าพยายามมองหา
ในสิ่งที่ตนเองขาด จนพลาดในสิ่งตนเองมี สู้ๆ นะคะ
แหล่งที่มา: parinyacheewit