ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2559

สูตรก๋วยเตี๋ยวลุยสวน น้ำจิ้มรสเด็ด


เมนูอาหารทานเล่น “ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน” เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ วันนี้แซ่บเวอร์ดอทคอมขอนำเสนอสูตรก๋วยเตี๋ยวลุยสวนและสูตรน้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวลุยสวนรสเด็ดมาฝากไว้ที่นี่แล้ว ที่สามารถทำรับประทานเองได้ที่บ้าน โดยเฉพาะหนุ่มๆสาวๆ ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เป็นอีกเมนูอาหารที่ทำง่ายๆ รับประทานง่ายได้ประโยชน์ ที่สำคัญรสชาติต้องอร่อยเด็ดแน่นอน เคล็ดลับความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวลุยสวนนั้น อยู่ที่ไส้ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนที่มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม ความสดกรุบกรอบของผักสด ผนวกกับแผ่นก๋วยเตี๋ยวที่นุ่มเกำลังดี และหัวใจสำคัญเลยคือ ต้องอร่อยเด็ด ที่มีสีเขียวคล้ายน้ำจิ้มซีฟู้ด (แต่รสชาติไม่ใช่แบบน้ำจิ้มซีฟู้ด) น้ำจิ้มจะมีรสจัดจ้านออกเปรี้ยวๆ เผ็ดนำตามมาติดๆด้วยรสหวาน แซ่บถึงใจ เรียกได้ว่าเป็นทีเด็ดมัดใจลูกค้าเลยก็ว่าได้


ส่วนผสมก๋วยเตี๋ยวลุยสวน

  1. แผ่นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ยังไม่ตัด 1000 กรัม
  2. หมูยอแบบแผ่นใหญ่ ๆ 3 ชิ้น 
  3. เต้าหู้แบบชิ้นสี่เหลี่ยมสีขาว 1 ชิ้น (ใส่หรือไม่ใส่ ก็ได้)
  4. หมูบดสุกปรุงรส (ใส่หรือไม่ก็ได้) ดูสูตรและวิธีทำด้านล่าง
  5. ผักต่าง ๆ ที่ใช้ในการห่อและกินเป็นเครื่องเคียง เช่น ผักกาดหอม ใบโหระพา ผักชีฝรั่ง แครอท แตงกวา ใบสะระแหน่ กะหล่ำปลีม่วงซอย หรือผักตามชอบ 
**หมายเหตุ: ท่านสามารถเปลี่ยนไส้ได้ตามใจชอบ เช่น ไส้หมูยอ ปลาทู เต้าหู้ ไส้กรอก แฮม ไก่ต้ม ทูน่า เป็นต้น


วิธีทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวน (แบบม้วนและหั่นชิ้นพอคำ)
1. นำแผ่นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ไปนึ่งให้สุก นำขึ้นพักไว้ให้เย็น
2. เตรียมส่วนผสมต่างๆ ไว้ให้พร้อม
• เต้าหู้ และหมูยอ นำลงทอดในกระทะด้วยไฟอ่อน ๆ ให้เหลืองหอม แล้วหั่นเป็นเส้น ๆ
• ล้างผักทุกอย่างให้สะอาด
• แตงกวาผ่าตามยาวเป็น 6 ชิ้น ส่วนแครอทหั่นยาวเป็นเส้น ๆ
3. นำเส้นก๋วยเตี๋ยววางบนเขียง คลี่แยกออกเป็นแผ่นๆ แล้ววางผักกาดหอม ใบโหระพา ผักชีฝรั่ง แตงกวาหั่นยาว แครอทหั่นยาว หมูยอหั่นยาว เต้าหู้หั่น และหมูบดสุกปรุงรสที่เตรียมไว้…ลงไปบนเส้นก๋วยเตี๋ยว (ส่วนผสมที่กล่าวมาบางอย่างจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ทั้งนั้น ปริมาณเพิ่มลดได้ตามชอบ.. แต่ควรใส่ไส้ต่างๆให้มันมีความสมดุลกัน และปริมาณไส้ใส่เยอะพอดีๆ กะว่าม้วนห่อแผ่นก๋วยเตี๋ยวได้ด้วยนะ)
4. จากนั้นม้วนห่อทุกอย่างรวมเข้าด้วยกันอยู่ในเส้นใหญ่ให้แน่น แล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ ตักใส่จาน พร้อมรับประทานคู่กับน้ำจิ้ม


ไส้ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน หมูบดสุกปรุงรส
ส่วนผสม
  1. หมูบดละเอียด (เนื้อส่วนสะโพกหมู)
  2. เห็ดหอมดอกใหญ่ แช่น้ำให้นิ่มและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  3. แครอท หั่นลูกเต๋าชิ้นไม่เล็กไม่ใหญ่มาก
  4. ซีอิ๊วขาว
  5. น้ำมันพืช นิดหน่อย
วิธีทำ
  1. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปนิดหน่อย เกลี่ยให้ทั่วกระทะ ใส่หมูบดลงไป ตามด้วยเห็ดหอมหั่น ผัดให้เข้ากัน
  2. แล้วจึงใส่แครอทหั่น และซีอิ๋วขาว ผัดและเกลี่ยส่วนผสมกลับไปมาให้เข้ากันอยู่สักพัก (น้ำจากแครอทจะซึมออกมาผสมกับเนื้อหมูทำให้มีรสหวาน อร่อยขึ้น) รวนหมูและส่วนผสมจนกระทั่งหมูสุก
  3. ตักใส่จาน พักไว้จนกระทั่งเย็น (เพราะถ้าเอาไปทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวนทันที ผักในแผ่นก๋วยเตี๋ยวจะโสนดำไม่สดไม่กรอบ)
น้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวลุยสวนสูตรที่ 1 น้ำพริกสะระแหน่
น้ำพริกสะระแหน่ (น้ำพริกข้าวหมกสูตรต้นตำรับดั้งเดิมของชาวมุสลิม) สูตรนี้เป็นสูตรของคุณบ่งบ๊ง สมาชิกเว็บไซต์พันธิปดอทคอม น้ำจิ้มสูตรนี้มีสีเขียวมรกตได้ใจสุดๆ ที่สำคัญทานกับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนอร่อยแซ่บแน่นอน อีกสูตรทำง่าย ที่มีส่วนผสมและวิธีทำดังนี้


ส่วนผสม
  1. กระเทียมกลีบเล็ก 20 กลีบ
  2. พริกชี้ฟ้าเขียว ผสมกับพริกขี้หนูเขียว มากน้อยตามชอบ
  3. ผักชีไทย 100 กรัม
  4. ใบสะระแหน่ 100 กรัม
  5. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  6. น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วย
  7. เกลือป่น 1 ช้อนชา
  8. นมเปรี้ยว โดยนำนมสดบีบน้ำมะนาวลงไป รอให้ตกตะกอนข้นแล้วนำมาใช้
วิธีทำ
  1. นำหม้อเคลือบตั้งเตาไฟ ใส่น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย และเกลือสมุทรลงไปเคี้ยว…เคี่ยวไม่ต้องให้ข้นมาก พักไว้ให้เย็น
  2. นำส่วนผสมทั้งหมดในข้อ 1 - 4 ใส่ในเครื่องผสมอาหาร แล้วบดปั่นให้ละเอียดมากที่สุด เทส่วนผสมที่ปั่นไปในน้ำเชื่อมที่พักไว้ ใส่นมเปรี้ยวลงไป ชิมรสให้ออกเปรี้ยวนำหวาน
น้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวลุยสวนสูตรที่ 2
สูตรนี้เป็นสูตรของครัวบ้านพิม เป็นอีกสูตรอร่อยและทำง่าย ที่มีส่วนผสมดังนี้

ส่วนผสม
  1. กระเทียมไทยกลีบเล็ก 4 ช้อนโต๊ะ
  2. ใบสะระแหน่ 1 ½ ถ้วย
  3. ใบโหระพา 1 ถ้วย
  4. รากผักชี 3 ราก
  5. พริกขี้หนูสวนสีเขียว 20 เม็ด
  6. น้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง
  7. น้ำตาลทราย 36 กรัม
  8. เกลือป่น 1 ½ ช้อนชา
  9. น้ำมะนาวคั้นสด 1 ช้อนชา
วิธีทำ
  1. ผสมน้ำส้มสายชู เกลือป่น และน้ำตาลลงในหม้อ คนพอเข้ากัน แล้วนำไปตั้งไฟปานกลาง รอจนเดือด ให้เกลือละลายหมดก็ปิดไฟ แล้วพักไว้ให้เย็น
  2. พอส่วนผสมน้ำส้มสายชูเย็นดีแล้ว ก็ให้เทใส่ลงในโถปั่นน้ำผลไม้ ตามด้วยน้ำมะนาว กระเทียมไทยที่ปอกเปลือกแล้ว ใบสะระแหน่ ใบโหระพา รากผักชี และพริกขี้หนูสีเขียว
  3. แล้วนำไปปั่นจนส่วนผสมทุกอย่างละเอียด ก็ปิดเครื่อง แล้วเทใส่กล่อง แช่ตู้เย็นรอไว้
  4. น้ำจิ้มสามารถทำไว้ล่วงหน้าได้ โดยใส่ขวดแก้วแช่ในตู้เย็น รุ่งขึ้นน้ำจิ้มจะเข้มข้น ไม่มีกลิ่นใบโหระพา รวมทั้งใช้เป็นน้ำจิ้มอาหารทะเล นึ่ง ย่างได้อีกด้วย 
น้ำจิ้มก๋วยเตี๋ยวลุยสวนสูตรที่ 3 น้ำจิ้มถั่วตัด
จริงๆแล้ว น้ำจิ้มสูตรนี้นิยมทำรับประทานกับเมี่ยงปลาเผา เมี่ยงปลาทู แต่ลองทำน้ำจิ้มสูตรนี้มารับประทานกับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนก็ให้ความอร่อยกลมกล่อมไปอีกแบบนะครับ สูตรนี้เป็นสูตรมาจากเว็บไซต์ nlovecooking.com น้ำจิ้มถั่วตัดนั้นจะมีสีน้ำตาล เป็นน้ำจิ้มหวาน ออกมันๆ หวานๆ ทำจากถั่ว รสอร่อยกลมกล่อม มีส่วนผสมและวิธีทำดังนี้


ส่วนผสม
  1. ถั่วตัด 1 แผ่น ประมาณ 3 ช้อนโต้ะ
  2. พริกสดสีแดง 3 ช้อนโต้ะ
  3. กระเทียม 2 ช้อนโต้ะ
  4. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต้ะ
  5. น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ
  6. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต้ะ
**หมายเหตุ: ถ้าใช้ถั่วลิสงคั่ว ต้องเพิ่มใส่น้ำตาลปี๊บ (หรือน้ำตาลมะพร้าว)

วิธีทำ
1. นำถั่วตัด หรือถั่วลิสงใส่ลงในโถปั่น หรือครกโขลกให้พอหยาบ ให้ยังคงเหลือเนื้อถั่วไว้นิดหน่อย เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย
2. โขลกหรือปั่นกระเทียมกับ พริกขี้หนู ให้ได้แบบหยาบๆ เช่นกัน
      2.1 กรณีไม่มี ถั่วตัด ให้ใส่น้ำตาลปีบ ในขั้นตอนหลังจากข้อที่ 2 ครับ
3. นำส่วนผสม 2 ส่วน (1 และ 2) ใส่ภาชนะ แล้วปรุงรสด้วย น้ำมะนาว และน้ำปลา ผสมให้ทุกอย่างเข้ากันดี ชิมรสตามชอบ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม และเผ็ด (การที่ใส่น้ำตาลที่น้อยกว่าส่วนผสมอื่น เนื่องจากตัวถั่วตัดมีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่แล้ว…แต่ถ้าใครหาถั่วตัดไม่ได้จะใช้ถั่วลิสงคั่วแทนก็ได้ แต่อาจต้องปรุงด้วยน้ำตาลเยอะหน่อยจะปรุงมากน้อยแค่ไหนก็ได้ตามชอบ ลองชิมดูถูกปากเราก็เป็นใช้ได้แล้ว)
4. เสริฟน้ำจิ้มใส่ถ้วยน้ำจิ้ม พร้อมรับประทาน


เคล็ดลับความอร่อย
  • เนื้อหมูที่ใช้ทำไส้หมูก๋วยเตี๋ยวลุยสวน แนะนำให้ใช้เนื้อส่วนสะโพกหมู 
  • ผักที่ใช้ทำและแผ่นแป้งที่ห่อ ควรห่อสดๆ และเลือกใช้ผักสดทำจะได้ความกรอบอร่อยของผัก แล้วม้วนๆให้แน่นสักหน่อย จากนั้นหั่นเป็นชิ้นพอคำ จัดเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม (ควรทำรับประทานวันต่อวันไม่มีค้างคืน ) ก็เป็นอีกเสน่ห์ความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวลุยสวนเช่นกัน
  • โดยทั่วไปก๋วยเตี๋ยวลุยสวนจะมีให้เลือก 2-3 แบบ คือ ไส้หมู ไส้หมูยอ ไส้มังสวิรัต (เต้าหู้ เห็ดหอม แครอท) เราสามารถทำให้ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนมีความหลากหลาย และน่าทานมากขึ้นด้วยการทำให้มีไส้ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนหลายๆแบบ ก็ช่วยจะเพิ่มความอร่อย และความดึงดูดใจให้น่ารับประทานได้ไม่รู้เบื่ออีกด้วย 
  • ส่วนผักที่เห็นสดสะอาดนั้นควรจะแช่กับน้ำส้มสายชูไว้สักพัก…เพื่อล้างสารพิษให้หมดไปด้วย

เรียบเรียงข้อมูลโดย: zabwer.com
ขอขอบคุณสูตรและรูปภาพจาก: คุณบ่งบ๊ง; pantip.com/topic/30271863
ครัวบ้านพิม; pim.in.th
nlovecooking.com

วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2559

สูตรลาบหมูรสเด็ด พร้อมเคล็ดลับความอร่อย


"ลาบหมู" เมนูอาหารอีสานยอดนิยม เป็นเมนูอาหารที่ทำได้ง่ายๆ อีกหนึ่งเมนูที่แทบทุกคนต้องเคยทานกันมาบ้าง และมักจะมาคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ ส้มตำรสแซ่บๆ สูตรและวิธีการทำลาบหมูนั้นไม่ยุ่งยาก แต่การทำให้อร่อยแซ่บถูกปากนั้นจำต้องมีเทคนิคและเคล็ดลับเฉพาะกันบ้าง วันนี้ครัวแซ่บเวอร์มีสูตรลาบหมูรสเด็ดมาฝาก รับรอง ทำง่ายๆ แต่อร่อยโดนใจแน่นอน


ส่วนผสมลาบหมู
  1. เนื้อหมูสันนอกสับ 100 กรัม 
  2. หั่นตับหมูเป็นชิ้นบางๆ 50 กรัม 
  3. ใบสะระแหน่ 2 ช่อ
  4. ผักชีฝรั่งหั่นหยาบๆ 2 ต้น 
  5. หอมแดงซอย 3 หัว 
  6. ต้นหอมซอย 3 ต้น
  7. พริกขี้หนูแห้งคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ 
  8. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ 
  9. น้ำปลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ 
  10. น้ำตาลทราย ¼ ช้อนชา (ใส่ หรือไม่ใส่ ก็ได้ตามชอบ)
  11. ข้าวคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ 
  12. ใบสะระแหน่ สำหรับโรยหน้า
  13. พริกขี้หนูแห้งทอด 3 เม็ด 
  14. ผักสด เช่น ผักกาดขาว กะหล่ำปลี แตงกวา ถั่วฝักยาว ผักชี ต้นหอม หรือผักตามชอบ ฯลฯ
วิธีทำลาบหมู
  1. เตรียมเครื่องผักต่างๆ นำมาล้างแล้วซอยเตรียมไว้ 
  2. หั่นตับเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำไปลวกพอสุก (ต้มแค่พอสุกนุ่ม ไม่แข็งแห้ง) ตักใส่ชาม พักไว้
  3. ใส่น้ำเปล่า 1 ทัพพีลงในหม้อหรือกระทะ ยกขึ้นตั้งไฟใช้ไฟปานกลาง จากนั้นใส่หมูสับลงไปรวนหมูจนสุก แล้วจึงใส่ตับลงไป และปิดไฟ 
  4. เอาเครื่องลาบ ได้แก่ ใบสะระแหน่ ผักชีฝรั่ง หอมแดงซอย ต้นหอมซอย ลงไปคลุกกับหมูสับและตับที่สุกแล้ว (ผสมเบาๆ อย่าให้ผักช้ำ)
  5. ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว, น้ำปลา, พริกป่น และน้ำตาล คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบเปรี้ยว เผ็ด เค็ม
  6. แล้วจึงใส่ข้าวคั่วเป็นลำดับสุดท้าย คลุกเคล้าให้เข้ากัน โรยใบสะระแหน่ลงไป ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
  7. แต่งข้างจานด้วยผักสด (กะหล่ำปลี, ถั่วฝักยาว) โรยหน้าด้วยใบสาระแหน่ เสริฟพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ (หรือข้าวสวย)
เคล็ดลับความอร่อยการทำลาบหมู
  • เนื้อหมูสับที่นำมาทำลาบ ควรสับหรือบดแบบหยาบๆ ถึงจะอร่อย
  • วิธีเลือกตับหมู วิธีสังเกตุว่าตับชิ้นไหนขม ดังนี้ ตับที่มีรสขมจะมีสีแดงเข้มเหมือนมีเลือดสดๆ ซึมออกมาตลอด ที่คนมักเรียกว่า “ตับเลือด” ถ้าชิ้นไหนเป็นแบบนี้อย่าไปเลือกมาครับ เพราะถ้าเราเอาไปประกอบอาหารจะมีรสขม และปรุงยังไงก็เหมือนไม่สุกสักที มีเลือดสีแดงซึมออกมาตลอดทำให้ต้องปรุงนาน ตับที่ได้ก็จะทั้งขมและแข็ง
  • เทคนิคทำลาบหมูให้น้ำแห้งไม่แฉะ มีวิธีคือ ลวกตับหมูและเนื้อหมูให้สุกก่อนในน้ำน้อยๆ (เวลาลวกไม่ต้องใช้น้ำมาก เพราะเวลานำมาทำลาบจะแฉะ) สุกแล้วยกลงมาพักไว้ก่อน แล้วจึงปรุงรส ใส่เครื่องผักซอยต่างๆ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ก็ได้ลาบหมู แบบน้ำแห้ง รสแซ่บแล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

สูตรแกงเห็ดเผาะผักหวาน รสแซ่บบบบ


แกงเห็ดเผาะใส่ผักหวาน เมนูอาหารภาคอีสาน อีกเมนูอาหารทำง่ายๆ แกงเห็ดสูตรนี้เป็นแบบแกงลาว ส่วนผสมตามสูตรนี้สามารถนำไปประยุกต์ทำแกงเห็ดต่างๆ ทั้งแกงเห็ดรวม แกงเห็ดสามอย่างได้ เพียงแค่เปลี่ยนจากเห็ดเผาะเป็นเห็ดต่างๆ ที่เราชอบหรือที่หาได้ เช่นเห็ดนางฟ้า เห็ดฟาง เห็ดเข็มทองเป็นต้น หรือจะเพิ่มผักต่างๆลงไปอีกก็ได้ทั้งนั้น เช่น ฟักทอง บวบ ผักพื้นบ้านที่หาได้ เป็นต้น วิธีทำแกงเห็ดเผาะใส่ผักหวานนั้นลองทำดูไม่ยากเลย รสอร่อยเข้มข้นจัดจ้าน อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร รับประทานกับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆ ก็แซ่บสุดๆแล้ว


ฤดูฝนเป็นฤดูที่เห็ดออกดอกออกผลมากที่สุด เห็ดที่กำลังเป็นกระแสและได้รับความนิยมมากตอนนี้ คือ เห็ดเผาะหรือเห็ดถอบ ที่ขบไปแล้วแตกดังเป๊าะๆ แบบที่เรียกว่าขบเผาะ ซึ่งเห็ดเผาะปีนี้ (ปี2559) ราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากหาทานได้ยาก โอกาสจะได้กินเห็ดสดหนึ่งปีมีหนเดียวเท่านั้น ก็คงต้องยอมกันละงานนี้ เพราะถัดจากนี้ไปคงต้องกินเห็ดเผาะกระป๋องในน้ำเกลือ ซึ่งก็พอทำเนาให้หายอยากไปได้บ้าง …หากใช้เห็ดสดให้นำไปลวกน้ำร้อนก่อน แต่ถ้าใช้เห็ดกระป๋องก็นำไปล้างน้ำแล้วใช้ได้เลย

ส่วนผสม
  1. เห็ดเผาะ ล้างให้สะอาด 150 กรัม
  2. ตะไคร้ ทุบและหั่นแฉลบ 1 ต้น
  3. พริกสดสีแดง บุบหยาบ 4-5 เม็ด
  4. น้ำคั้นใบย่านาง (กะเอาให้สีออกเข้มๆ กำลังดี) 1 ½ ถ้วยตวง
  5. ผักหวาน 1 กำมือ
  6. ใบแมงลัก เด็ดเอาแต่ใบ ½ ถ้วยตวง (ปริมาณตามชอบ)
  7. น้ำปลาร้า 1 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  9. เกลือป่น ¼ ช้อนชา
  10. ข้าวคั่วป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำ
  1. เตรียมผักหั่นไว้ ส่วนน้ำคั้นใบย่างนาง (ซื้อที่ตลาดก็ได้) หรือจะคั้นเองก็ได้ง่ายมากดังนี้ เด็ดเอาแต่ใบย่านาง ล้างน้ำให้สะอาด หั่นใบย่านางให้เล็กลง จากนั้นใช้ครกโขลกให้ละเอียด แล้วเติมน้ำลงไป กะเอาผสมให้สีออกเข้มๆ กำลังดี แล้วจึงกรองเอาแต่น้ำ ก็จะได้เป็นน้ำคั้นใบย่านาง (เช่น ใช้ใบย่านาง 10 ใบ โขลกละเอียดแล้วเติมน้ำ 2 ถ้วยตวงลงไป กรองเอาแต่น้ำ ก็จะได้น้ำค้นใบย่านาง 2 ถ้วยตวง)
  2. นำน้ำคั้นใบย่านางใส่หม้อขึ้นตั้งไฟกลางไว้ แล้วใส่พริกบุบหยาบ และตะไคร้ (อย่าใช้น้ำคั้นใบย่านางเยอะ เพราะน้ำจากเห็ดจะออกมาหลังจากแกงได้สักครู่) …รอจนเดือด
  3. เมื่อน้ำเดือด ใส่น้ำปลาร้า เกลือป่น และข้าวคั่วป่นลงไป คนพอเข้ากัน…ต้มพอมีกลิ่นหอม
  4. จากนั้นจึงใส่เห็ดเผาะ เห็ดทุกชนิดลงไป และใส่ผักหวาน รอให้เห็ดสุกและรสหวานจากผักออก…(ถ้ามีฟองคอยช้อนฟองออก)
  5. ชิมรสอีกครั้ง ถ้ารสอ่อนไปเติมน้ำปลาหรือเกลือ
  6. ปิดเตา ใส่ใบแมงลักและกดให้ผักจมน้ำร้อน คนพอเข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ
เห็ดเผาะผ่าครึ่ง (photo: คุณ Mr.Trin)

แนะนำเพิ่มเติม
  • นำเห็ดเผาะผ่าครึ่งเพื่อเลือกเห็ดที่อ่อนๆ ส่วนเห็ดที่แก่เป็นสีดำควรคัดออก…เห็ดเผาะอ่อนข้างในจะเป็นสีขาวจะแกงอร่อย…ส่วนดอกที่แก่ข้างในสีดำจะเหนียวเคี้ยวลำบาก
  • ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าลองทำดู แกงเห็ดเผาะใส่ใบผักติ้ว (ผักแต้ว) ผักติ้วจะออกรสเปรี้ยว เมื่อนำมาใส่แกงเห็ดจะทำให้อร่อยมากขึ้น
  • แกงเห็ดที่ขาดไม่ได้เลย คือต้องใส่ตะไคร้และใบแมงลัก
  • ถ้าแกงเห็ดแบบแกงลาวไม่ควรใส่ใบกะเพรา ต้นหอม และหอมแดงลงไป เพราะจะให้กลิ่นแกงเห็ดเพี้ยนไป แต่ถ้าจะใส่ก็ได้อันนี้ก็ตามแต่สูตรของแต่ละคน ปรับเปลี่ยนได้ตามชอบครับ
Photo credit: manager.co.th, IphoneOngfong สมาชิกเว็บ wongnai.com

วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2559

หมูมะนาว 4 สูตรเปรี้ยวแซ่บ พร้อมเคล็ดลับความอร่อย


"หมูมะนาว" เมนูอาหารไทยสุดแซ่บอีกเมนูอาหารทำง่ายๆ ขั้นตอนไม่ยุ่งยากเลย เพียงลวกหมูที่หั่นเป็นชิ้น ในน้ำเดือดแค่พอสุก แล้วตักหมูขึ้นสะเด็ดน้ำจัดเรียงใส่จาน แล้วราดด้วยน้ำราดหมูมะนาวรสแซ่บจี๊ดที่ปรุงเตรียมไว้ เสิร์ฟพร้อมกับก้านคะน้าหรือแตงกวาหั่น แค่นี้ก็อร่อยเปรี้ยวๆ จี๊ดๆ แซ่บเวอร์ถูกใจแล้ว วันนี้ Zabwer.com จึงขอนำเสนอวิธีทำหมูมะนาวสูตรแซ่บไว้ทำรับประทานเองได้ที่บ้าน จะทานเป็นกับแกล้ม อาหารทานเล่น หรือทานเป็นกับข้าวพร้อมข้าวสวยร้อนๆก็ถูกใจคนชอบอาหารรสจัดยิ่งนัก



1.หมูมะนาว
หมูมะนาว สูตรนี้ต้องขอขอบคุณสูตรอร่อยของคุณมณีริน จากสมาชิกเว็บไวต์พันธิปดอทคอม เป็นอีกสูตรอร่อย รสเปรี้ยวแซ่บถูกใจ ที่ได้แนะนำสูตรและวิธีทำแซ่บๆเอาไว้

ส่วนผสม
  1. เนื้อหมู
  2. แป้งมัน
  3. มะนาว 2 ลูก
  4. รากผักชี
  5. กระเทียม
  6. พริก
  7. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำตาลทรายนิดๆ ½ ช้อนชา
  9. คนอร์ อร่อยชัวร์ ½ ช้อนชา
  10. ผักชี สำหรับโรยหน้า
วิธีทำ
  1. หั่นหมู ชอบชิ้นขนาดไหนก็หั่นไป 
  2. หมักหมู ด้วยแป้งมัน 
  3. ขยำๆแล้วทิ้งไว้ 
  4. เตรียมเครื่องทำน้ำจิ้มคือ มะนาว, รากผักชี, กระเทียม พริกใส่ครก และใส่เกลือไปด้วยซักนิด...ตำพริกละเอียดตามต้องการ 
  5. บีบน้ำมะนาว วันนี้ใช้ 2 ลูก น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลนิดๆ ครึ่งช้อนชา และวันนี้ใส่คนอร์ อร่อยชัวร์ ลงไปด้วยครึ่งช้อนชา เสร็จแล้ว 
  6. ตั้งน้ำให้เดือด ใส่หมูลงไปลวกให้สุก...จากภาพน้ำไม่ค่อยเดือดเพราะปิดเตาก่อนค่ะ (ไม่งั้นถ่ายรูปไม่ได้)... 
  7. หมูสุกแล้ว...ตักใส่กระชอน ให้สะเด็ดน้ำ 
  8. ตักหมูใส่จาน 
  9. ราดน้ำจิ้มลงไป...โรยหน้าด้วยผักชี 
  10. ทานกับก้านคะน้า (แช่น้ำแข็งไว้รอแล้ว) และผักชีวิธีทำ 
2.หมูมะนาว




ส่วนผสม (สำหรับ 2 ท่าน)
  1. เนื้อหมู หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม
  2. กระเทียมกลีบใหญ่ แกะเปลือกหั่นหยาบๆ 2 ช้อนโต๊ะ
  3. พริกขี้หนูสวน ซอย 5-10 เม็ด (ปรับได้ตามความชอบ)
  4. ผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
  5. ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำมะนาว 3-5 ช้อนโต๊ะ
  9. ก้านคะน้า ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 1-2 ต้น (เพิ่มได้ตามความชอบ)
วิธีทำ
  1. นำก้านคะน้ามาปอกเปลือกออกแล้วหั่นเฉียงเป็นชิ้นๆ นำก้านคะน้าที่หั่นไว้ไปแช่ในน้ำแข็ง เตรียมไว้ 
  2. เตรียมทำน้ำราด โดยผสมกระเทียม,พริก,ซิอิ๊วขาว,น้ำปลา,น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว …คนจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี ชิมรสปรับรสชาติได้ตามที่ต้องการ 
  3. หั่นสไลซ์เนื้อหมูเป็นแผ่นบางๆ 
  4. ใส่น้ำลงในหม้อนำขึ้นตั้งไฟจนเดือด แล้วจึงใส่เนื้อหมูลงลวกพอสุก (ประมาณ 30 วินาที อย่าลวกนาน เพราะจะทำให้หมูแข็งกระด้าง) ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ 
  5. จัดหมูที่ลวกแล้วเรียงใส่จานที่รองด้วยก้านคะน้า จากนั้นเทน้ำราดที่ปรุงเตียมไว้ลงบนหมู พร้อมเสิร์ฟ 
3.หมูมะนาวแบบย่าง
ส่วนผสม
  1. เนื้อหมูตรงส่วนของคอหมู (เอาแบบติดมันนิดๆ)
  2. กระเทียมปอกเปลือก 5 กลีบ
  3. พริกขี้หนูสวน 7 เม็ด
  4. ใบสะระแหน่ 4-5 ใบ
  5. น้ำกระเทียมดอง ครึ่งช้อนชา
  6. น้ำมะนาว ครึ่งช้อนชา (หรือจะมากกว่านี้ถ้าชอบเปรี้ยว)
  7. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำตาลทราย ซีอิ้วขาว (พอประมาณกะเอานิดหน่อย)
  9. เกลือและพริกไทยนิดหน่อย 
วิธีทำ
  1. เมื่อเตรียมเครื่องปรุงเสร็จแล้วก็มาถึงขั้นตอนการทำ ก่อนอื่นนำคอหมูมาหมักกับซีอิ้วขาว เกลือ พริกไทย หมักทิ้งไว้สักพัก...แล้วก็นำมาย่างให้เนื้อหมูพอสุกแบบมันหยดนิดหน่อย แล้วก็นำคอหมูย่างมาแล่เป็นชิ้นบางๆพอคำ แล้วพักไว้ก่อน เพื่อมาทำน้ำจิ้มราด 
  2. วิธีการทำน้ำจิ้มก็เริ่มจากการนำพริกขี้หนูมาโขลกกับกระเทียมและน้ำตาลทรายให้ละเอียด แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำกระเทียมดอง เป็นว่าเสร็จได้น้ำจิ้มรสเด็ด ก็นำมาราดบนคอหมูย่างที่เตรียมไว้แล้ว และโรยหน้าด้วย สะระแหน่อีกนิดเพิ่มความหอม แค่นี้ก็จะได้หมูมะนาวรสชาติแซบหลาย ถูกใจคนชอบอาหารรสจัด 
4.สันในหมูนึ่งมะนาว
ส่วนผสม
  1. สันในหมู 1 เส้น
  2. รสดีรสหมู 1 ช้อนชา
  3. กระเทียม โทน 10 กลีบ
  4. มะนาว 3 ผล 
  5. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนชา
  7. พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
  8. พริกขี้หนูสับหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
  9. กระเทียมกลีบเล็กสับหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
  10. ผักกาดแก้ว สะระแหน่ โหระพา
วิธีทำ
  1. ผสมน้ำมะนาว 2 ชต.น้ำตาลทราย แดง พริกไทยป่น รสดีรสหมู คนให้เข้ากัน ใส่สันในหมูทั้งเส้นลงหมักทิ้งไว้ 1 ชม.ควรใช้ส้อมหรือไม้แหลมจิ้มรอบๆสันในเพื่อให้เครื่องปรุง ซึมเข้าในเนื้อ 
  2. วางสันในหมูลงในชามทนไฟ นึ่งในรังถึงที่น้ำเดือด ไฟกลางนาน 30 นาที ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น ฝานเป็นแว่นบางๆ จัดเรียงลงในจานเสิร์ฟ 
  3. ราดด้วยส่วนผสมของน้ำปลา มะนาว พริกขี้หนู กระเทียมสับ กระเทียมโทน เสิร์ฟพร้อมกับผักต่างๆ เช่น ผักกาดแก้ว สะระแหน่ โหระพา และผักอื่นๆ ตามชอบ ฝานมะนาว 1 ลูกตามขวาง ประดับรอบจาน 
เคล็ดลับความอร่อย
  • เนื้อหมูที่ใช้ทำหมูมะนาว เช่น เนื้อหมูสันนอก,เนื้อหมูสันใน, เนื้อหมูตรงส่วนของคอหมู (แบบติดมันนิดๆ) เป็นต้น 
  • การจะทำหมูมะนาวให้อร่อยนั้น เริ่มตั้งแต่วิธีการหั่นหมู ให้หั่นสไลซ์เนื้อหมูเป็นแผ่นบางๆ หากหั่นเนื้อหมูตามขวาง จะทำให้เคี้ยวลำบาก เพราะมีกากและเส้นใย แทนที่เนื้อหมูจะนุ่ม กลับเหนียว เคี้ยวไม่คล่อง 
  • สูตรที่เรานำมาเสนอนี้ นอกจากสูตรน้ำราดปรุงรสแซ่บๆแล้ว ก็จะแตกต่างกันที่เทคนิควิธีการทำหมูให้สุก คือ บางสูตรก็จะหมักหมูก่อน เพื่อให้หมูนุ่มและรสอร่อย แล้วจึงนำไปลวกให้พอสุก …บางสูตรก็นำหมูไปย่างให้พอสุก …บางสูตรก็นำหมูไปนึ่งในรังถึงที่น้ำเดือดให้หมูสุก เสร็จแล้วจึงนำไปราดน้ำราดที่ปรุงเตรียมไว้…ซึ่งแต่ละสูตรนั้นก็มีความอร่อยไปคนละแบบ และเอาไว้เป็นไอเดียดัดแปลงการทำอาหารได้ ส่วนถ้าอยากรู้ว่าอร่อยแค่ไหน ก็ต้องลองมาทำตัดสินด้วยตัวเองแล้วล่ะครับ^^

Credit: http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2011/11/D11402569/D11402569.html

สูตรต้มข่าไก่ พร้อมเคล็ดลับวิธีทำต้มข่าไก่ให้อร่อย


สูตรต้มข่าไก่ นั้นว่าไปแล้วก็คล้ายกับการทำต้มยำทั่วไป เพียงแต่ต้มข่าไก่จะมีการใส่กะทิเพิ่มลงไป ส่วนเครื่องปรุงอื่นๆ ก็คล้ายกับต้มยำ สำหรับวันนี้ Zabwer.com ได้นำสูตรต้มข่าไก่ พร้อมเคล็ดลับวิธีทำต้มข่าไก่ให้อร่อยมานำเสนอ ถือเป็นอีกเมนูอาหารไทยที่อร่อยครบรส มีไก่เนื้อนุ่ม รสชาติออกเปรี้ยว เค็ม และหวานมันจากกะทิ น้ำแกงไม่ข้นมากจนเกินไปและไม่ใสจนเกินไป จุดเด่นคือความมันเข้มข้นจากกะทิและหอมกลิ่นสมุนไพรไทย เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมรองจากต้มยำกุ้ง โดยเฉพาะในกลุ่มชาวต่างชาติ เพียงมีส่วนประกอบหลักคือ ไก่ เห็ด ชุดเครื่องต้มยำ และกะทิสักกล่องก็สามารถทำต้มข่าไก่แสนอร่อยได้แล้ว หรืออาจจะดัดแปลงใส่กุ้งแทนไก่ก็ได้เช่นกัน


ส่วนผสมต้มข่าไก่
1. เนื้ออกไก่หั่นชิ้นพอคำ (แล้วแต่ปริมาณที่ต้องการใส่)
2. ใบมะกรูด(จะหั่นหรือจะฉีกตอนจะใส่ลงหม้อก็ได้) 4 -6 ใบ
3. เห็ดนางฟ้าหรือเห็ดฟาง 1/2 ถ้วย
4. ตะไคร้ล้างสะอาด ทำการทุบหั่นเฉียง 1/2 ต้น
5. ข่าอ่อน ทำการปอกเปลือกนำไปหั่นเป็นแว่นพอคำ 20 แว่น
6. มะเขือเทศ 3 ลูก หั่นเป็นแว่นๆ
7. หอมแดง
8. พริกขี้หนูสวนให้ทุบแตก 5 เม็ด
(ถ้าต้องการเผ็ดมากใส่เพิ่มได้…ถ้าไม่ทานเผ็ดใช้พริกจินดา)
9. หางกะทิ 2 ถ้วย
10. หัวกะทิ 1 ถ้วย
11. เกลือป่น 1 ช้อนชา
12. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
13. น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
14. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
15. ผักชี สำหรับโรยหน้า

วิธีทำ
  1. หั่นเนื้อไก่และผักต่างๆตามสูตรเตรียมไว้ก่อนให้พร้อม
  2. ตั้งกระทะหรือหม้อ ใส่หางกะทิลงไปและใส่เกลือเล็กน้อย ใช้ไฟแรงปานกลาง ต้องคอยคนเป็นระยะๆ ไม่ให้กระทิมันแตกมัน (กะทิจะเป็นลูกหรือแยกตัว)…คนจนมันเริ่มเดือด
  3. แล้วจึงใส่ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดลงไป (ใครมีรากผักชี ก็ทุบใส่เพิ่มลงไป) เคี่ยวไปประมาณ 5 นาที จนได้กลิ่นหอม
  4. ใส่เนื้อไก่ลงไป ใช้ทัพพีกดไก่ให้มิดแต่ไม่ต้องคน รอให้เดือดอีกครั้ง
  5. ใส่หัวกะทิ เห็ด และมะเขือเทศลงไป คนให้เข้ากัน …รอสักพักจนน้ำแกงเดือด
  6. จากนั้นใส่พริกขี้หนูทุบลงไป (ถ้าไม่ทานเผ็ด ก็ไม่ต้องใส่พริกขี้หนู …ให้ใส่พริกจินดาเป็นเม็ดๆลงไปแทนก็ได้) คนให้เข้ากัน … แล้วปิดเตาได้
  7. ปรุงรสเลย ใส่น้ำปลา น้ำมะขามเปียกหรือน้ำมะนาวก็ได้ และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน…ชิมรสให้ออกเปรี้ยว เค็ม และหวาน กลมกล่อมจากกะทิ…(ค่อยๆปรุงใส่ทีละนิด ไม่อร่อยจึงเติมเพิ่ม แต่ถ้าใส่ทีละเยอะๆแล้วไม่อร่อยมันแก้ยาก)
  8. เสร็จแล้วตักใส่ชาม โรยหน้าด้วยผักชีเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ
ลักษณะที่ดีของต้มข่าไก่
น้ำแกงต้องไม่แตกมัน ไก่เนื้อนุ่ม น้ำแกงไม่ข้นมากจนเกินไปและไม่ใสจนเกินไป

เคล็ดลับวิธีทำต้มข่าไก่ให้อร่อย
  • กรณีที่ต้มข่าไก่แล้วกะทิลอยแตกมัน ที่ลอยเพราะปริมานน้ำมากกว่ากะทิ…ถ้าไม่ให้ลอย ต้องลดน้ำลงตอนต้มเหลือแค่ขลุกขลิกพอหรือใส่น้ำนิดเดียว แล้วจึงใส่กะทิ …แต่สำหรับสูตรที่เขาใช้กะทิล้วนๆ (หางกะทิ + หัวกะทิ) ก็มักจะไม่เกิดปัญหานี้จะได้น้ำแกงออกมาเนียน ซึ่งขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละคน …แต่ถ้าเกิดกรณีกะทิลอยแตกมันก็ลองนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้ได้ครับ
  • เนื้อไก่ เช่น น่องไก่เล็ก, ปีกกลางไก่ (ส่วนนี้รับประทานง่าย เปื่อยเร็ว ให้น้ำซุปด้วย เพราะมีกระดูก สับครึ่ง ใช้ 6 – 7 อัน / 1 ชามใหญ่ ๆ), ถ้าใช้ส่วนอกหรือสะโพกก็หั่นเป็นชิ้นพอคำ (เนื้อไก่ควรเป็นส่วนของอกไก่ เพื่อความแน่นและกลมกล่อม) เป็นต้น
  • ข่า จะใช้ข่าอ่อนหรือข่าแก่ก็ได้ …แต่ข่าอ่อนจะอร่อยกว่า …หั่นชิ้นเท่าๆกัน หรือหั่นเป็นดอกไม้
  • ตะไคร้ หั่นแฉลบ แล้วแช่น้ำผสมน้ำมะนาวเพื่อให้สีคงตัว
  • มะเขือเทศ จะใส่หรือไม่ก็ได้ตามชอบ แต่ถ้าอยากกินเพื่อสุขภาพก็แนะนำให้ใส่ลงไปด้วย
  • ควรใช้ไฟปานกลางในการประกอบอาหาร
  • ถ้าอยากให้น้ำแกงต้มข่าไก่มีสีออกเหลืองสวยสักหน่อย ก็ให้ใส่น้ำมันน้ำพริกเผาหรือน้ำพริกเผาลงไปด้วย
  • ถ้าต้องการรสเผ็ด ให้ใส่พริกสด หรือน้ำพริกเผา หรือน้ำมันน้ำพริกเผาลงไปก็ได้ ปริมาณตามความชอบเผ็ด ส่วนพริกสดนั้นใช้เป็นพริกขี้หนูสวนทุบจะได้ความเผ็ดและความหอมจากพริกนี้ แต่ถ้าไม่ชอบเผ็ดก็ใส่เป็นพริกจินดา หรือพริกแห้งก็ได้

แม่นเหลือเชื่อ เลขท้ายบัตร บอกได้ว่าคุณ จะร่ำรวยหรือลำบาก

 การทำนายดวงชะตาว่าจะรวยหรือจนนั้นแม้จะหาความแน่นอนไม่ได้นักเพราะส่วนหนึ่งมันก็เป็นไปตามการตัดสินใจของเราด้วย แต่ว่าตัวเลขที่อยู่ติดตัวเราต...