ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2565

วิธีทำ “กุ้งอบวุ้นเส้น” สูตรทำง่าย เส้นเหนียวนุ่ม อร่อย กลมกล่อม

 

วิธีทำ “กุ้งอบวุ้นเส้น” สูตรทำง่าย เส้นเหนียวนุ่ม อร่อย กลมกล่อม

ส่วนผสม

1 กุ้ง 8 ตัว (ปริมาณตามชอบ)

2 วุ้นเส้น 200 กรัม

3 เบค่อน ตามชอบ

4 พริกไทยเม็ด ตำหยาบ 5 กรัม

5 รากผักชี 1 ราก

6 ขิงหั่นบาง 20 กรัม

7 ผักชีสำหรับโรยหน้า 1 ต้น

8 กระเทียมจีนทุบ 2 กลีบ

9 น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ

10 น้ำมันพืน 1 ช้อนโต๊ะ

11 ซีอิ๊วขาว ครึ่งช้อนโต๊ะ

12 ซอสปรุงรส ครึ่งช้อนโต๊ะ

13 น้ำปลา ครึ่งช้อนโต๊ะ

14 น้ำตาลทราบแดง 1 ช้อนชา

15 ซีอิ๊วดำ ตามชอบ

16 น้ำ 1 ถ้วย

วิธีทำ

นำเบค่อนเรียงใส่หม้ออบตั้งไฟอ่อนไว้ก่อนค่ะ

จากนั้นตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมัน ผัดขิง รากผักชี กระเทียม พริกไทย ผัดให้หอม

เมื่อเครื่องที่เราผัดหอมดีแล้วให้ใส่น้ำลงไป พร้อมเครื่องปรุงทั้งหมด (ชิมรสตามชอบค่ะ)

น้ำตาล น้ำปลา ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และซีอิ๊วดำค่ะ (ใส่ซีอิ๊วดำแต่งสีตามชอบ)

ตั้งไฟให้น้ำเดือดจัดจึงใส่วุ้นเส้นลงไปผัดให้เข้ากัน

เมื่อผัดวุ้นเส้นสุก น้ำเริ่มแห้ง ให้นำวุ้นเส้นที่ผัดเทใส่หม้ออบที่รองก้นด้วยเบค่อนค่ะ

  

จากนั้นจึงนำกุ้งมาเรียงในหม้อ ปิดฝา อบต่อจนกุ้งสุกค่ะ

เมื่อกุ้งสุกแล้ว โรยด้วยผักชี จัดเสิร์ฟได้เลยค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก Phorn_Kitchen สมาชิกเว็บพันทิป

ชวนทำ “เต้าหู้ปลาผัดซอสเปรี้ยวหวาน” น้ำซอสเข้มข้น อร่อยลงตัว

 

ชวนทำ “เต้าหู้ปลาผัดซอสเปรี้ยวหวาน” น้ำซอสเข้มข้น อร่อยลงตัว

 

ส่วนผสมและเครื่องปรุง

1 เต้าหู้ปลา 300 กรัม

2 พริกหวาน สามสี อย่างละ ครึ่งลูก

3 สับปะรด 1 กระป๋อง

4 หอมใหญ่ 1/2 หัว

5 กระเทียม 1 ชต.

6 พริกแห้งทอด 10-15 เม็ด

7 น้ำมันสำหรับผัด 2 ชต.

ส่วนผสมซอสเปรี้ยวหวาน

1 ซอสมะเขือเทศ 1/3 ถ้วย

2 ซอสพริก 2 ชต.

3 ซีอิ้วขาว 2 ชต.

4 น้ำส้มสายชู 1 ชต.

5 น้ำตาลทรายแดง 3 ชต.

6 แป้งข้าวโพด 3 ชต.

7 น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย

8 ซอสหอยนางรม 2 ชต.

วิธีทำ

เริ่มจากนำ ซอสมะเขือเทศมาใส่ในถ้วย ใส่น้ำตาลทราย ซอสพริก ซีอิ้วขาวลงในถ้วยผสม

เติมน้ำส้มสายชู น้ำมันหอย และนำแป้งข้าวโพด มาผสมน้ำที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน ผสมลงในถ้วย แล้วคนให้เข้ากันพักไว้ก่อน

ซอสเปรี้ยวหวานเตรียมเสร็จพักไว้ก่อน

ตั้งกะทะ ไฟอ่อน นำพริกแห้งมาทอดให้กรอบ พักไว้ จากนั้นนำกระเทียมสับลงผัดให้หอม

มื่อกระเทียมผัดหอมแล้ว ใส่เต้าหู้ปลา ลงผัดให้ร้อน เติม พริกหสาน3 สี และหอมใหญ่ สับปะรด ลงผัดให้ผักสุก..

เมื่อผักสุกตามที่เราต้องการ นำซอสเปรี้ยวหวานที่ผสมไว้ ลงมาใส่กะทะ ผัดให้เข้ากัน ชิมรสอีกครั้ง เพิ่มเติมได้ค่ะ

ชิมรสตามต้องการแล้ว นำพริกทอดมาใส่ผัดแล้วปิดเตา ยกลงตักใส่ชาม ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยจัง ซอสรสชาติพอดีเลยค่ะ

เสร็จแล้ว ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก tukata001  สมาชิกเว็บพันทิป 

วิธีทำ “ข้าวต้มมัด” ขนมไทย รสหวานมัน ข้าวเหนียวนุ่ม อร่อย

 

วิธีทำ “ข้าวต้มมัด” ขนมไทย รสหวานมัน ข้าวเหนียวนุ่ม อร่อย

 

ส่วนผสมข้าวต้มมัด

1. ข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม แช่ในน้ำอย่างน้อย 3 ชั่วโมง

2. หัวกะทิ 3 ถ้วยตวง

3. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง

4. เกลือ 3 ช้อนโต๊ะ

5. กล้วยน้ำว้า 15 ลูก ผ่าตามยาวครึ่งลูก

6. ถั่วดำต้มสุก 3 ขีด

วิธีทำ

1. ล้างข้าวเหนียวให้สะอาดใส่กระทะ พักไว้

2. ผสมหัวกะทิ เกลือ น้ำตาลทราย ให้เข้ากัน ชิมดูเติมให้มีรสเค็มเล็กน้อย

3. นำกะทิเทใส่ข้าวเหนียว ใส่ถั่วดำที่ต้มแล้วลงไป แล้วนำไปผัด ผัดจนกว่ากะทิแห้ง แล้วยกลงจากเตา

4. ทำการห่อข้าวต้มมัด วางใบตอบ 2 ขนาดซ้อนกัน ตักข้าวเหนียวที่ผัดไว้วางบนใบตอง

5. นำกล้วยที่ผ่าซีกวางลงไป ตักข้าวเหนียวมาวางปิดกล้วยให้มิดไม่ต้องหนามาก

7. ห่อข้าวต้มให้สวยงาม ห่อไปเรื่อยๆจนหมด

8. นำข้าวต้มที่ห่อเรียบร้อยแล้วมามัดรวมกัน เป็นคู่ๆ นำด้านเรียบเข้าหากัน

9. นำข้าวต้มที่มัดไปนึ่ง 45 นาที หรือ จนข้าวเหนียวสุก เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Natchakorn R.

วิธีทำ “วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน” เมนูหวานเย็น ชื่นใจ ทำง่ายมากๆ

 

วิธีทำ “วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน” เมนูหวานเย็น ชื่นใจ ทำง่ายมากๆ

 

ส่วนผสม วุ้นกะทิ มะพร้าวอ่อน

1. น้ำมะพร้าว 250 มล. (ใช้น้ำเปล่าแทนได้)

2. กะทิ 250 มล.

3. ผงวุ้น 1/2 ช้อนโต๊ะ

4. น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง

5. เกลือ 1/4 ช้อนชา

6. เนื้อมะพร้าวอ่อน 150 กรัม

วิธีทำ

  

   

  

เสร็จแล้วว วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน ทานเย็นๆ ชื่นใจมากค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจากคุณ she-sweet สมาชิกเว็บพันทิป

วิธีทำ “กุยช่ายทอด” แป้งกรอบนอกนุ่มใน พร้อมน้ำจิ้มซีอิ๊วรสเด็ด

 

วิธีทำ “กุยช่ายทอด” แป้งกรอบนอกนุ่มใน พร้อมน้ำจิ้มซีอิ๊วรสเด็ด

 

ส่วนที่ 1 เตรียมขนมกุยช่าย

1 ใบกุยช่าย 800 กรัม

2 เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ

3 เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ

4 น้ำมันรำข้าว 100 กรัม

5 แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วย

6 แป้งมัน 1/4 ถ้วย

7 แป้งข้าวเจ้า 1/3 ถ้วย

8 น้ำสะอาด 300 มิลลิลิตร

9 น้ำมันรำข้าว สำหรับทอด

ส่วนที่ 2 น้ำจิ้มซีอิ๊วดำ

1 ซีอิ๊วดำ 200 มิลลิลิตร

2 น้ำส้มสายชู 80 มิลลิลิตร

3 น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย

4 พริกแดงจินดา (ซอย) 30 กรัม หรือตามชอบค่ะ

วิธีทำ 

1. หั่นใบกุยช่าย จากนั้นก็ผสมเบกกิ้งโซดา เกลือ และน้ำมันรำข้าว คลุกให้เข้ากัน เสร็จแล้วก็วางพักไว้

2. ผสมแป้งข้าวเหนียว แป้งมัน และแป้งข้าวเจ้า คนให้เข้ากัน

3. เติมน้ำใส่ลงไปในแป้ง คนจนแป้งละลาย จากนั้นก็นำใบกุยช่ายมาผสม เสร็จแล้วก็เทใส่ถาด เกลี่ยใบกุยช่ายให้ทั่วๆ

4. ตั้งหม้อนึ่ง เมื่อน้ำเดือดแล้วก็นำขนมกุยช่ายลงไปนึ่ง ใช้เวลา 20 นาที เสร็จแล้วก็นำขึ้นมาแกะขนมออกจากถาดและ

ตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมแล้วนำมาทอดให้กรอบ

วิธีทำ น้ำจิ้มซีอิ๊วดำ

เทซีอิ๊วดำลงไปในหม้อ เติมน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย และพริกแดงจินดา คนจนน้ำตาลละลาย

เสร็จแล้วก็ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟพร้อมกับขนมกุยช่าย

ขอบคุณข้อมูลจาก  Food MThai

วิธีทำ “ไก่ต้มน้ำปลา” พร้อมสูตรน้ำจิ้มโบราณ รสแซ่บ


 วิธีทำ “ไก่ต้มน้ำปลา” พร้อมสูตรน้ำจิ้มโบราณ รสแซ่บ

 

สิ่งที่ต้องเตรียม

– ไก่สด 1 ตัว (หรือไก่ส่วนต่าง ๆ ตามชอบ)

– รากผักชีทุบ 2 ราก

– ข่าหั่นแว่น 3 แว่น

– ตะไคร้ทุบ 2 ต้น

-ใบมะกรูด 3 ใบ

-น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ

-น้ำปลา 1 ถ้วย

-ซอสปรุงรส 1 ถ้วย

-ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ

-น้ำสำหรับต้ม

วิธีทำไก่ต้มน้ำปลา

1. ในขั้นตอนแรกให้เราทำการล้างไก่ที่เตรียมเอาไว้ให้สะอาด ล้างหลายๆน้ำ

2. จากนั้นให้เราใส่น้ำลงในหม้อ นำไก่ที่เราล้างลงไปลวกจนหนังไก่ตึง ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้

3. ให้เราใส่รากผักชี ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และน้ำตาลปี๊บลงก้นหม้อ ให้เราวางไก่ทับลงไป จากนั้นเติมน้ำปลา ซอสปรุงรส

และซีอิ๊วดำ เทน้ำตามลงไปพอให้ท่วมตัวไก่ ปิดฝา ต้มด้วยไฟอ่อน ต้มนานประมาณ 30 นาที 1 ชั่วโมง

(ตามขนาดของตัวไก่) ต้มจนสุกทั่ว

4. ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ ตัดเป็นชิ้นใส่จาน เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มสูตรโบราณ

ส่วนผสม (น้ำจิ้มสูตรโบราณ)

-พริกขี้หนู ปริมาณตามชอบ

-กระเทียม 5 กลีบ

-เกลือป่น สำหรับปรุงรส

-น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย

-น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ให้เราทำการโขลกพริกขี้หนู กระเทียม และเกลือป่นพอหยาบ

2. เติมน้ำส้มสายชู และน้ำตาลปี๊บลงไป คนผสมให้ละลายเข้ากัน

3. ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมไก่ต้มน้ำปลา

เรียบเรียง  menuchuangin

ผู้หญิงที่ทั้งเก่งและฉลาด เขาจะไม่ทำ 8 สิ่งนี่

 

ผู้หญิงที่ทั้งเก่งและฉลาด เขาจะไม่ทำ 8 สิ่งนี่

ผู้หญิงในสมัยนี้ จะมีความต่างกับผู้หญิงในสมัยก่อน สมัยนี้นั้นต่างดูแลตัวเองและให้ความสำคัญกับตัวเองกันมากขึ้น สามารถลงมือทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาใคร

หากต้องการที่จะเป็นผู้หญิงที่เก่งมีความฉลาด มีความมั่นใจ เขาจะไม่ทำใน 8 สิ่งนี้ เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่เก่งขึ้นได้ เราสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ด้วยการปรับเปลี่ยนความคิดและการลงมือทำ

1 หยุดเปรียบ เทียบ

ข้อนี้นั้นสำคัญมากๆเลย อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น คนอื่นเก่งกว่าคนอื่นดี กว่า คนเราทุกคนนั้นมีต้น ทุ นที่ต่างกันออกไป และทุกๆคนก็ต่างมีข้อดีและมีข้อเด่นของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น เลือกใช้ชีวิตในแบบของตนเองที่เป็น จะมีความสุขกับการใช้ชีวิตที่มากกว่า

2 อย่าทำตัวเป็นคนสมบูรณ์แบบ

ความสมบูรณ์แบบของแต่ละคนนั้นมีความพึงพอใจที่ต่างกันออกไป ไม่มีใครที่ดีจน 100 เปอร์ เซ็น จนไม่มีที่ติ อย่าทำตัวเป็นคนที่ไม่พอใจอะไรสักอย่างใครทำอะไรให้ก็ไม่รู้ใจ สุดท้ายก็ต้องมานั่งทำเอง พอทำมากๆก็เหนื่อย พอเหนื่อยก็อารมณ์เ สี ย หงุด หงิดแล้วพ า ลใส่คนอื่น

3 อย่าให้ความไม่มั่นใจ มา ฉุ ดตัวเอง

คนรู้จักคนห นึ่ งเขาเป็นคนที่มีความฉลาดและเรียนเก่งมากๆ อันที่จริงแล้วเธอน่าจะประสบความสำเร็จในการทำงานในการใช้ชีวิตได้เร็วกว่านี้ แต่เป็นเพราะความลังเลความโลเล และความไม่มั่นใจของตัวเอง จึงไม่กล้าตัดสินใจในการทำสิ่งต่างๆ แม้แต่เรื่องง่ายๆในชีวิตประจำวัน กว่าจะคิดที่จะตัดสินใจบางอย่าง ก็ได้พลาดโอกาสไป

4 อย่าคิดเองไปทุกเรื่อง

อย่าคิดเองเออเอง อย่าคิดเล็กคิดน้อย อย่าทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ และอย่าเอาเรื่องของคนอื่นมาคิดให้รกส ม อ งให้ป ว ดหัว เรื่องไหนที่ปล่อยวางได้ปล่อยวางไปไม่ต้องเก็บทุกๆเรื่องมาคิด กับตัว

5 อย่าให้ความเห็นของคนอื่นมาลดศักยภาพของตนเอง

คนเรานั้นมีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อคำพูดของคนอื่นที่ได้บอกมา บางคนมีความคล้อยตามกับคำพูดเหล่านั้น จนติดเป็นนิสัย จึงทำให้เก็บมาคิดมากอยู่ตลอดเวลา คำพูดของคนอื่นที่เขาไม่ได้รู้ว่าแท้จริงแล้วตัวเราเป็นอย่างไร เราไม่ต้องเก็บคำพูดเรานั้นมาใส่ใจ มาคิดมาก คนที่เขาจะประสบความสำเร็จ จะมาจากความตั้งใจและความพยายามของตัวเองทั้งนั้น เก็บคำพูดของคนอื่นมาเป็นแรงผลักดันก็พอ

6 ไม่จมปลักอยู่กับปัญหา

คนเราทุกคนนั้นผิด พลาด กันได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องอะไรก็ตาม ผิดแล้วก็ต้องเรียนรู้กับปัญหาที่ได้เกิดขึ้น ไม่ใช่จมปลักอยู่กับปัญหานั้นๆ อย่าโ ท ษตัวเองจนทำให้เสียขวัญ และหมด กำลังใจไป คนที่เขา ไม่เคยทำอะไรผิดเลย นั่นคือคนที่เขาไม่เคยลงมือทำอะไร

7 อย่าเงียบเฉย

การอดทนและการเงียบเฉย นั่นไม่ใช่แนวทางสำหรับการแก้ปัญหาที่ถูกต้องเลย ในทางกลับกันจะเป็นการหมักหมกปัญหาต่างๆเอาไว้อยู่กับตัว เพื่อที่จะรอวันปะ ทุออกม าแต่ก็จะต้องรู้จักการแสดงออกมาอย่างเหมาะสมด้วย ไม่ใช่โวย ว า ยเสียงดัง

8 อย่าก ลั วที่จะเปลี่ยนแปลง

ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง จะต้องอาศัยความกล้าของตัวเอง อย่ารีรออย่าปล่อยให้เวลาเลยผ่ า นไป เราสามารถที่จะเปลี่ยนตัวเองได้ กันในทุกเวลา ทั้งความคิดและการกระทำ เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อที่จะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้น

เรียบเรียง : hostingrc

แม่นเหลือเชื่อ เลขท้ายบัตร บอกได้ว่าคุณ จะร่ำรวยหรือลำบาก

 การทำนายดวงชะตาว่าจะรวยหรือจนนั้นแม้จะหาความแน่นอนไม่ได้นักเพราะส่วนหนึ่งมันก็เป็นไปตามการตัดสินใจของเราด้วย แต่ว่าตัวเลขที่อยู่ติดตัวเราต...