เรื่องนี้เขียนไว้ดีมาก “จนเงินได้..แต่อย่าจนความคิด”
จริงอยู่ที่ไม่มีใคร อ ย า ก จนหรอก แต่บางครั้งเราก็จำเป็นที่ต้องจน ทั้งแบบตั้งใจและแบบไม่ตั้งใจ ความจนแบบไม่ตั้งใจ เป็นเพราะ เราเลือกเกิดไม่ได้เมื่อเราต้องเกิดมาในครอบครัวที่ ย า ก จนไม่ได้ร่ำรวยนั่นถือว่า เป็นการจนแบบไม่ได้ตั้งใจ
ส่วนการจนแบบตั้งใจนั้น ก็หมายถึง เราไม่มีเงินเพราะเราเองไม่ขยัน ไม่อดทนหรือเราอาจเคยรวย เคยมีฐานะดี แต่ที่เราต้องจนแบบตั้งใจ ก็เพราะเกิดจากการสร้างหนี้ การใช้เงินฟุ่มเฟือย ไม่ระมัดระวังให้คนอื่นยืมเงิน แล้วโดนหนีหนี้
ทำธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จ ล้มละลาย จนทำให้กลายเป็นคนจนแบบตั้งใจแบบนี้ ไปได้เมื่อต้องอยู่ในสถานะที่เรียกว่าจนแล้ว ก็แปลว่า เราจนเงินไม่มีเงินใช้จ่ายได้สบายไร้กังวล เงินที่ได้มาอาจจะพอ หรือไม่พอกับค่าใช้จ่ายด้วยซ้ำ
หากอย ากได้สิ่งของอะไรก็ไม่สามารถซื้อได้ อ ย่ า ง ที่ใจหวัง ต้องรอ ๆ และบางครั้งก็ไม่รู้ว่าจะ ต้องรออีกถึงเมื่อไหร่ ความจนนั้นก็แบ่งได้ หลายระดับ จนมากหรือจนน้อย จนมากก็หมายถึงจนถึ งขนาด ต้องเป็นหนี้ รายได้ไม่พอ ค่าใช้จ่าย ต้องหยิบยืม
ก ู้หนี้มาส่วนจนน้อยก็อาจจะหมายถึ งมีรายได้ แค่เพียงพอกับ ค่าใช้จ่ายเท่านั้น อาจไม่ถึงกับเป็นหนี้ แต่ก็ไม่มีเงินเหลือเก็บพอที่จะ ยกฐานะของตัวเองให้ดีขึ้นจนพ้นจากความจนไป ได้มีคนเคยแบ่งความจนไว้เป็น 4 แบบ ด้วยกัน มาดูกัน
เราว่าอยู่ในข่ายไหนของความจนกันบ้าง จนเงิน คนจนเงิน ก็คือ คนที่ไม่มีเงินหรือมีเงินน้อย น้อยจนไม่เพียงพอที่จะดูแลตัวเอง หรือครอบครัวได้ ความหมายของจนเงินมักเป็น ความจนที่คนทั่วไปเข้าใจกัน จนเวลา คนจนเวลา ก็คือ คนที่ไม่มีเวลา
หรือมีเวลาน้อยที่จะ ทำให้สิ่งที่ตัวเองต้องการจะทำ คนจนเวลาบางคนมีเงิน แต่ไม่มีเวลาใช้เงิน เพราะมัวแต่หาเงิน ส่วนคนจนเวลาบางคน ก็ไม่มีเงินด้วย เรียกว่าจนทั้งเวลาและจนทั้งเงิน จนโอกาส คนจนโอกาส ก็คือ คนที่แทบไม่มีโอกาสที่ดี
เข้ามาในชีวิตเลยหรืออาจมี แต่เราไม่ไขว่คว้าไว้ บางคนก็ตีอกชกหัวตัวเองว่า เรานั้นทั้งประหยัดทั้งขยัน ชีวิตมีแต่คิดดีทำดี ทำไมไม่เห็นได้ดีบ้าง นอกจากประหยัด ขยันและเป็นคนดีแล้ว เรายังต้องฉลาดด้วย ฉ ล า ด ในการเปิดโอกาสใหม่ ๆ
ให้กับชีวิตของเราอาชีพบาง อ ย่ า ง ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่เป็นอาชีพที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เมื่อทำงานไป ถึงจุดหนึ่งก็ควรที่จะต้องหาทางขยับ ข ย า ย เพื่อให้เราได้รับโอกาสใหม่ ๆ บ้างจนความคิด คนจนความคิด ก็คือ คนที่คิดน้อยหรือคนที่ไม่มีความคิดนั่นแหละ
ความคิดของคนที่จนความคิดจะวนเวียนอยู่แต่กับสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ เช่น คิดแต่ดูถูกตัวเองว่าทำไม่ได้ คิดแต่ว่าชาตินี้เราจะไม่มีวันรวย คิดว่าคนอื่นเก่งเราไม่เก่งเหมือนเขา เราไม่มีทางทำได้แบบเขา คิดว่าก็เขาเกิดมารวยเราไม่ได้รวยเหมือนเขา
เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยเราทำไม่ได้หรอก อาชีพเสริมเราไม่ไหว สุ ข ภ า พ เราไม่ดี ฯลฯ คิดแบบนี้แล้วโอกาสหลาย ๆ อ ย่ า ง ในชีวิตก็ต้องหลุดลอยไป ไม่ว่าจะเป็นการจนแบบไหนก็ตาม ก็ไม่เป็นผลดีกับชีวิตทั้งนั้น การจนเรื่องเงินยังเป็นของนอกกาย
ที่หากเราไม่จนความคิดไปด้วยชีวิต ก็ยังมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงได้ หากเราไม่มีเงิน ไม่มีเวลาและไม่มีโอกาสดี ๆ แถมเรายังมีความคิดที่ไม่ถูกต้องหรือมีทัศนคติที่ไม่ดี กับการดำเนินชีวิตของเรา ชีวิตของเรานั้นก็คงจะจนเหมือนเดิม
ไม่มีใครสามารถช่วยอะไรเราได้นอกจากตัวเราเอง สำคัญที่สุดคือต้องเปลี่ยนแปลงความคิดก่อน นั่นคืออันดับแรกที่จะทำให้ เรามีชีวิตที่ก้าวพ้นจากความจนที่แท้จริงไปได้ คนจนหรือคนรวยก็สามารถ มีความสุขได้เหมือนกัน คนรวยก็ไม่ได้จำเป็น
ที่จะต้องเป็นที่อิจฉาอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าคนรวยทุกคนจะมีความสุขได้ด้วย ใช่ คนรวยสามารถซื้อบ้านหลังใหญ่ รถยนต์ยี่ห้อหรู รับประทาน อ า ห า ร อร่อยแพงตามร้าน ซื้อเสื้อผ้า รองเท้ามีแบรนด์ดัง แต่ อ ย่ า ลืมว่าคนรวยเขาก็ต้อง พ ย า ย า ม รั ก ษ า
สถานภาพทางสังคม และเศรษฐกิจของตัวเขาเองไว้ด้วย ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นภาระอันหนักหน่วงสำหรับคนรวยที่มากกว่า คนจนที่เราต้องการเพียงแค่การกินอิ่มนอนหลับสบายเท่านั้น เงินเป็นของแปลก เรามักจะ อ ย า ก มีเงินมาก ๆ กันและคิดว่า
เมื่อเรามีเงินเท่านั้นเท่านี้แล้วก็จะ พอเพราะชีวิตของเราก็จะมีความสุข แต่เพราะเหตุใดคนรวยถึงไม่หยุด คนรวยบางคนเมื่อร่ำรวยมีเงินทอง มากมายก็ยังหาความรวยกันต่อไป เมื่อมีมากก็ อ ย า ก มีมากขึ้นไปอีก แทนที่จะมีความสุขก็จึงกลายเป็นเงินนั้น
สร้างความกังวลและความ ทุ ก ข์ ให้กับคนรวย การเขียนแบบนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า ต้องเป็นคนจนถึงจะดี เพราะเมื่อรวยจะเป็น ทุ ก ข์ ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นแบบที่ว่า เพียงแต่ต้องการจะบอกว่าไม่ว่าจ ะเป็นคนจนหรือคนรวยเราก็ สามารถมีความสุขได้เหมือนกัน
หากเราจนไม่มีเงิน เราก็ อ ย่ า จนความคิดไปด้วย ให้มองแง่ดีของการที่เราไม่ต้องดูแลทรัพย์สมบัติมากมาย หรือมีเกียรติยศ ชื่อเสียงค้ำคอ การเลือกกิน อ า ห า ร การแต่งตัวของเราสามารถ ทำได้แบบตามสบาย ไม่ต้องเป็นทางการเหมือนกับคนรวย
นอกจากนั้นให้เราคิดในแง่ดีถึงศักยภาพ ในตัวเราเองว่าเราสามารถทำอะไรได้อีกมาก เพื่อยกระดับฐานะของตัวเราเอง เพื่อที่วันหนึ่งไม่เพียงแต่ เราจะมีชีวิตในรูปแบบที่เราต้องการ แต่เราอาจจะยังสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ด้วย
การคิดแบบจรรโลงใจแบบนี้ ทำให้เรามีกำลังใจ และก้าวเดินไปข้างหน้า อ ย่ า ง มีความสุขได้
ขอขอบคุณที่มา 108resources