เปลือกแก้วมังกรเหลือๆ ต่อไปนี้อย่าเพิ่งโยนทิ้ง...เพราะมีประโยชน์มาก
เป็นที่รู้ๆ กันว่าสารต้านอนุมูลอิสระมีส่วนช่วยยับยั้งเซลล์ป้องกันริ้วรอยอันเกิดก่อน วัย และเจ้าเปลือกแก้วมังกรที่หลายๆ คนมองข้ามนี่แหละอุดมไปด้วยสารอาหารชนิดนี้ อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมอีกด้วยนะ
โดยปกติแล้วเราทานแก้วมังกรเฉพาะเนื้อแล้วโยนเปลือกทิ้งไป แต่อ๊ะ! เดี๋ยวก่อน! มีงานวิจัยมากมายที่ค้นพบคุณค่าสารอาหารในแก้วมังกร ทั้งอุปโภค บริโภค ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างนั้นลองมาดูกันเลย
ใช้ทำบรัชออน – ลิปสติก
น้อง เมย์ กนกเนตร สุภาศรี นักเรียนชั้นม. 5 โรงเรียนดาราวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ ซึ่งทางครอบครัวมีอาชีพเพาะปลูกแก้วมังกร จึงได้ทำการวิจัยค้นคว้าคุณประโยชน์จากเปลือกแก้วมังกร กระทั่งพบว่า สามารถนำมาเป็นส่วนผสมในแป้งฝุ่น บรัชออน รวมถึงลิปสติกได้ด้วย โดยการนำเปลือกแก้วมังกรสีสวยเข้ากับน้ำเปล่า หมักทิ้งไว้ 12 ชั่งโมง ผสมน้ำหมักแก้วมังกรที่มีสีชมพูม่วงสวยๆ เข้ากับแป้งมัน จากนั้นกวนให้สุกแล้วนำไปตากแห้ง แล้วจึงบดให้เป็นผงพร้อมใช้งาน ในจุดนี้สามารถนำไปทำการวิจัยค้นคว้าต่อไปได้
ใช้แทนสีผสมอาหาร
เป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยล่ะ เมื่อเราไม่ต้องใช้สีสังเคราะห์ในการทำขนมนมเนยอีกต่อไป เมื่อเรากวนแป้งผสมเปลือกแก้วมังกรให้แห้ง บดเป็นผงพร้อมใช้งาน จากนั้นเราก็นำไปละลายในน้ำเพียงเล็กน้อยก็จะได้สีผสมอาหารจากธรรมชาติแล้ว ล่ะ ซึ่งปัจจุบันชาวบ้าน อ. ดอยสะเก็ด ได้นำสีจากแก้วมังกรไปทำขนมปุยฝ้าย ทับทิมกรอบ วุ้น ซาหริ่ม ปุยฝ้าย ขนมชั้น เป็นต้น
ใช้สีแก้วมังกรย้อมเซลล์ทางวิทยาศาสตร์
เป็น เรื่องที่น่าดีใจมาก เมื่อสีจากเปลือกแก้วมังกร สามารถนำไปย้อมเซลล์ในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ได้ โดยน้องเมย์ทดลองนำไปย้อมพืชใบเลี้ยงเดี่ยว-เลี้ยงคู่ อนาคตอาจนำไปใช้ในห้องแล็ปและอาจทำการย้อมอวัยวะภายในเพื่อตรวจหาโรคทดแทน การใช้สีสังเคราะห์ที่นำเข้าจากต่างประเทศอีกด้วย
ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางประทินผิว
ขณะ นี้กำลังอยู่ในกระบวนการทดลองเพื่อให้สีคงความเข้มข้นเมื่ออยู่ในส่วนผสมที่ เป็นน้ำหรือน้ำมันมากๆ เนื่องจากการทดลองที่ผ่านมาทำให้สีจากแก้วมังกรซีดลงกลายเป็นสีชมพูไม่คง ความเข้มข้นของสีไว้ดังเดิม แต่คาดว่าน่าจะทำหารวิจัยสำเร็จและอาจต่อยอดใช้เป็นสีผสมใน โลชั่น เจลอาบน้ำ ครีม เจล เป็นต้น
กินป้องกันแก่ – สมองเสื่อม
รู้ กันหรือไม่ว่าเปลือกแก้วมังกรอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง หนึ่งในนั้นคือสารแอนโทไซนานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีประสิทธิภาพสูงกว่าเบต้าแคโรทีน 10 เท่า ช่วยต้านออกซิเดชั่น ป้องกันอนุมูอิสระ ชะลอความแก่ และป้องกันสมองเสื่อม รวมถึงโรคอัลไซเมอร์อีกด้วย
นอกจากนี้สารแอนโทไซยานิ นยังช่วยสร้างความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือด ปกป้องผนังหลอกเลือดแดง ลดความดัน บำรุงผิวให้กระจ่างใสไร้รอยด่างดำ ป้องกันการอักเสบและอาการแพ้ บำรุงข้อต่อให้มีความยืดหยุ่น และบำรุงสายตาต้านรังสี ควบคุมน้ำหนักเป็นต้น
เมนูจากเปลือกแก้วมังกร
รับประทานโดยตรง: คือคว้านเอาด้านในของเปลือกมารับประทานได้เลย
คั้นเป็นน้ำดื่ม: วิธีจะทำให้คุณรับประทานได้ง่ายขึ้น วิธีทำง่ายๆ คือ คว้านเอาด้านในของเปลือกแก้วมังกรมาคั้นรวมกับน้ำ เติมน้ำตาลลง เพียงแค่นี้คุณก็จะได้น้ำผลไม้รสชาติหอม หวาน อร่อย แถมยังช่วยดับกระหายได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ
ยำแก้วมังกรแบบคลีน: ง่ายๆ เพียงแค่ฝานเปลือกแก้วมังกรเป็นเส้นบางๆ จากนั้นนำมาคลุกกับน้ำมันงา ผสมซุปไก่สกัดลงไปพร้อม ชิมรสตามชอบ อาจเติมน้ำตาล หรือเกลือเพียงเล็กน้อย แค่นี้ก็ได้อาหารสุดจะคลีนแล้ว
ชุบแป้งทอด: นำเปลือกแก้วมังกรไปหั่นเป็นเส้นตามยาวเหมือนเฟรนฟราย จากนั้นนำไปชุบแป้ง(สำหรับทอด) และทอดด้วยไฟแรง คุณก็จะได้เมนูทานเล่นในวันว่างหรือเป็นกับแกล้มก็เข้ากันดี
แกงส้มเปลือกแก้วมังกร: เมนูนี้ไม่ต่างอะไรจากแกงส้มปกติ เพียงแค่หั่นเปลือกแก้วมังกรเป็นเส้นยาว จากนั้นนำลงไปในหม้อน้ำเดือด ปรุงรสด้วยพริกแกงส้มและเครื่องปรุง คำแนะนำถ้าอยากให้อร่อยควรตำพริกแกงเองใหม่ๆ จะทำให้น้ำซุปเข้มข้นมากขึ้น
ยำเปลือกแก้วมังกรแบบไทย : เมื่อคุณชุบแป้งทอดเปลือกแก้วมังกรไว้ทานเล่นแล้ว อาจจะเพิ่มรสชาติความอร่อยด้วยการปรุงน้ำยำใช้สำหรับราด รสชาติของน้ำยำจะคล้ายกับยำถั่วพูคือใส่กะทิลงไปด้วยจะเพิ่มความ หอม หวาน อร่อย ของยำแก้วมังกรมากยิ่งขึ้น