ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2566

สมเด็จพุฒาจารย์โต เมตตา อวิชชา คุณไสย แพ้ 3 คำสั้นๆ

 

สมเด็จพุฒาจารย์โต เมตตา อวิชชา คุณไสย แพ้ 3 คำสั้นๆ


อาตมาได้เห็นอานิสงส์แห่งการสวดมนต์ ได้รู้เห็นด้วยตัวของอาตมาเอง
ในสมัยที่อาตมาได้ออกเดินธุดงค์ไปในป่าเป็นเวลา 15 ปี
โดยอาศัยอยู่ในเขตดงพญาไฟ
ซึ่งเป็นเขตที่ใกล้กับชายแดนของประเทศเขมร
ในสมัยนั้นเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ ภูตผีวิญญาณต่างๆนานา
ตลอดจนชาวบ้านที่มีเวทมนตร์คาถา
และเล่นคุณไสยกันอยู่มากมายในบริเวณอาณาเขตแห่งประเทศสยามนั้น


อาตมาได้เดินธุดงค์เพียงลำพัง ในช่วงนั้นอาตมาไม่ได้ศึกษาพระเวทย์มนต์คาถาอาคมใดๆเลย นอกจากคำว่า



พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ



ฟังบทสวดนี้มีความหมายว่า ข้าพเจ้าขอยึดมั่น พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง พระธรรมเป็นที่พึ่ง พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง


อาตมาไปทุกหนทุกแห่งใดก็จะกล่าวเพียงคำนี้ตลอด ตลอดเวลาของจิตใจอันเป็นที่พึ่งของอาตมานั้น


เมื่อจะมาได้เดินทางเข้าสู่หมู่บ้านแห่งประเทศสยามในดงพญาไฟ
ในหมู่บ้านมีชาวบ้านอาศัยอยู่เพียงเล็กน้อย
อาตมาได้ลงหลักปักฐานอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน
มีชาวบ้านมากมายนำอาหารมาถวายตามกำลังที่เราพอจะทำได้
เมื่อเห็นมีพระภิกษุเข้ามาปักกลดในที่แห่งนี้
อาตมาไปอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายปี


และ ณ ที่แห่งนั้น
อาตมาจึงได้พบคุณวิเศษแห่งการสวดมนต์มีชาวบ้านผู้หนึ่งได้เข้ามาสนทนากับอาตมาหลังจากได้ถวายอาหารแล้วชาวบ้านผู้นั้นอาตมาทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ
นายผล นายผลได้เล่าให้อาตมาฟังว่า

เขาเป็นผู้ฝึกเวทมนตร์คาถาอาคมเล่าเรียนจนมีญาณแก่กล้า
และมักจะทดสอบเวทมนตร์คาถาอาคมแก่พระภิกษุสงฆ์ที่เดินทางมาปักกลด ณ
บริเวณนี้เป็นประจำเขาเล่าให้อาตมาฟังว่าเขาได้ส่งอำนาจคุณไสยเข้ามาทำร้ายอาตมาทุกคืน
แต่ไม่ได้หวังทำร้ายเป็นบาปเป็นกรรม


เพียงแต่ต้องการทดสอบดูว่าภิกษุรูปนั้น
จะมีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถที่จะต่อสู้กับคุณไสยเขาได้หรือไม่
นายผลก็ได้ทำคุณไสยใส่อาตมาถึง 7 วัน เต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยควายธนู
หรือปล่อยหนังควาย
ปล่อยตะขาบตลอดจนภูติพรายเข้ามาทำร้ายอาตมาแต่ปรากฏสิ่งที่ปล่อยมา
ก็ไม่สามารถเข้ามาทำร้ายอาตมาได้เลย
วันนี้จึงได้มากราบเพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กับอาตมา

อาตมาจึงได้บอกว่าตัวอาตมาเองไม่ได้ศึกษาพระเวทมนตร์คาถา
หรือคุณไสยใด นายผลก็ไม่ยอมเชื่อหาว่าอาตมาโกหก
ถ้าหากไม่มีของดีแล้วไซร้ไฉนอำนาจคุณไสยดำที่เขาส่งมา จึงกลับมายังเขา
ซึ่งเป็นผู้กระทำ
ไม่สามารถทำร้ายอาตมาได้อาตมาก็พยายามชี้แจงให้เขารู้ว่าอาตมาไม่มีวิชาเหล่านี้จริง
ๆ ทำให้นายผลสงสัยยิ่งนักว่าเหตุใดอาตมา
จึงไม่ได้รับภัยอันตรายจากอำนาจเวทมนตร์คุณไสยดำที่เขาส่งมาทำร้ายได้
อาตมาได้บอกกล่าวแก่เขาว่า เมื่ออาตมาจะนอน อาตมาก็จะสวดแต่คำว่า



พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ




จนจิตมีความสงบนิ่งแล้ว จึงได้แผ่ส่วนกุศลไปให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย
จงอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย



และอาตมาก็จำวัดนอนเป็นปกติ นายผลเมื่อได้ฟังดังนั้น จึงได้บอกแก่อาตมาว่า
ข้าแต่ท่านอาจารย์ ถ้าเช่นนั้น ข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านในวันนี้
ก่อนที่ท่านจะจำวัดจงหยุดการสวดมนต์สัก 1 คืนได้หรือไม่
ข้าพเจ้าต้องการจะพิสูจน์ว่าการสวดมนตร์ของท่านเช่นนี้
จะเป็นเกราะคุ้มครองภัยท่านหรือเป็นเพราะอำนาจเวทมนตร์คาถา ในภูตผีปิศาจ
ของข้าพเจ้าเสื่อมกันแน่

ข้าพเจ้าขอรับรองว่า
จะไม่ทำอันตรายแก่ท่านอาจารย์อย่างเด็ดขาด
เพียงแต่ต้องการที่จะทดสอบให้ความรู้แจ้งเห็นจริงว่าเกิดอะไรขึ้น
อาตมาก็ตกลงรับปากแก่นายผลว่า คืนนี้จะไม่ทำการสวดมนต์ นายผลจึงได้ลากลับไป


ครั้นถึงเวลาพลบค่ำอาตมาก็นอนโดยมิได้ทำการสวดมนตร์
ตามที่ได้ปฎิบัติเป็นปกติ เมื่ออาตมานอนหลับไป
อาตมารู้สึกตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อปรากฏว่าอาตมาได้ยินเสียง กุกกัก
กุกกัก ดังขึ้นมา จึงได้จุดเที่ยนและพบตะขาบใหญ่
ยาวเท่าขาของอาตมากำลังเลื้อยเข้ามาอยู่ใกล้ตัว ของอาตมามาก
อาตมารู้สึกตกใจถึงหน้าถอดสี และด้วยสัญชาติญาณจึ่งกล่าวคำสวดมนต์



พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ



ด้วยจิตยึดมั่นในพระพุทธองค์เป็นที่พึ่งเป็นเวลานานเท่าใดไม่ทราบได้
เสียงกุกกักและตะขาบที่อยู่ข้างหน้าก็อันตรธานหายไป
จากนั้นอาตมาจึงได้จำวัดนอนเป็นปกติ ในวันรุ่งขึ้น
นายผลก็มาหาอาตมาและได้กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ข้าพเจ้า
ได้ปล่อยตะขาบเข้าไปในกลดที่ท่านพักพำนักอยู่
อาตมาบอกว่าอาตมาได้ตื่นมาและตกใจ จึงได้สวดมนต์ภาวนา ตะขาบตัวนั้น
ก็อันตรธานหายไป

นายผลจึงได้ยกมือพนมขึ้น แล้วกล่าวว่า
บัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อแล้วว่า อำนาจเวทมนตร์คาถา และคุณไสยใดๆ
ของข้าพเจ้ามิอาจทำร้ายท่านได้ก็เพราะอำนาจแก่การสวดมนตร์ภาวนาของท่านเป็นเกราะคุ้มครองภัยอันตรายต่างๆ
ได้ที่อาตมา (สมเด็จโต) ได้เล่าให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ได้ฟังกัน
เพื่อให้เป็นอานิสงส์ของการสวดมนตร์ว่า
เหล่าพรหมเทพได้มาฟังการสวดมนตร์จริงดังที่อาตมาได้เทศน์ไว้


เพราะถ้าไม่ใช่เหล่าพวกพรหมเทพแล้วไซร้
ก็คงไม่สามารถที่จะขับไล่สิ่งที่เกิดจากอำนาจคุณไสย
ที่นายผลส่งมาเล่นงานอาตมาได้อย่างแน่นอน ท่านเจ้าพระยา และ อุบาสก
อุบาสิกา ในที่นั้น เมื่อได้ฟังคำเทศนาแล้ว ต่างก็ยกมือขึ้นสาธุว่า
อานิสงส์ของการสวดมนตร์มีคุณค่าสูงส่งยิ่งนัก


ขอขอบคุณ : ตำนานเล่าขาน

แม่นเหลือเชื่อ เลขท้ายบัตร บอกได้ว่าคุณ จะร่ำรวยหรือลำบาก

 การทำนายดวงชะตาว่าจะรวยหรือจนนั้นแม้จะหาความแน่นอนไม่ได้นักเพราะส่วนหนึ่งมันก็เป็นไปตามการตัดสินใจของเราด้วย แต่ว่าตัวเลขที่อยู่ติดตัวเราต...